วันอาทิตย์ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2554

Mixed Fruit Yum Yum – ยำผลไม้รวม




ควันหลงจากวันสารทจีน มีผลไม้หลากหลายในช่วงเทศกาลนี้ที่ทางบ้านซื้อมา เลยเป็นที่มาของยำผลไม้รวมแสนอร่อย ในวันหยุดสุดสัปดาห์นี้เลยค่ะ


ส่วนผสมผลไม้ (ตามใจชอบค่ะ)
แอปเปิ้ลแดง     2 ลูก
สาลี่               1 ลูก
แครอท           1 หัว (แครอทออสเตรเลีย จะได้รสชาติที่หวาน และกรอบ)
องุ่น (ที่ทำใส่องุ่นลูกเล็ก ๆ กลม ๆ หวานอมเปรี้ยว ลูกน่ารักดีค่ะ ซื้อมาจากซอยอารีย์ 7 ถนนพหลโยธิน)
น้ำเปล่า           1 ถ้วย
น้ำตาลทราย     ½ ถ้วย (ใช้น้ำตาลทรายแดง จะได้รสชาติที่หอม)
น้ำมะนาว         1 ลูก
กุ้งเนื้อ            1 ถ้วย (ใช้กุ้งเนื้อ ซึ่งจะตัวใหญ่กว่ากุ้งแก้วเหมาะสำหรับใส่ในยำต่าง ๆ สำหรับกุ้งแก้วไว้ใส่แกงจืด)
เกลือทะเล       1/4 ช้อนชา
พริกขี้หนู         3-5 เม็ด
วิธีทำ
ล้างผลไม้และผักให้สะอาด
หั่นแอปเปิ้ล และสาลี่ เป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า และแช่ในน้ำเย็นที่ผสมเกลือทะเลนิดหน่อย ทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที

หั่นแครอทเป็นเส้นเล็ก เหมือนกับทำส้มตำมะละกอ
นำผลไม้และผักออกจากน้ำใส่กระชอนให้เสด็จน้ำ แล้วแช่ในตู้เย็นไว้ประมาณ 30 นาที
นำน้ำเปล่าใส่หม้อ ตั้งไฟปานกลาง พอน้ำเดือดเติมน้ำตาลทรายลงไป และเคี่ยวด้วยไฟอ่อน จนเหนียว ข้นพอประมาณยกลงจากเตา พักไว้ให้เย็น
ล้างกุ้งให้สะอาด
ตำพริกขี้หนูให้ละเอียดแล้วผสมลงในน้ำเชื่อมใส่เกลือและน้ำมะนาวนิดหน่อย คนให้เข้ากัน ชิมรสชาติตามต้องการ (ถ้าให้เด็กทานก็ไม่ต้องใส่พริก)


นำมาคลุกลงในผลไม้แล้วรับประทานได้เลย แบบนี้ค่ะ

วันจันทร์ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2554

Fruit Cake - เค้กผลไม้

หลังจากที่สะสมผลไม้อบแห้งไว้หลายเดือนเต็มทีแล้ว เพิ่งจะได้ฤกษ์ทำเค้กผลไม้ วันนี้ค่ะ

มาดูส่วนผสมกันเลยค่ะ
ส่วนที่ 1
ผลไม้แห้ง 720 กรัม (เราเลือกใส่ผลไม้อบแห้งที่มีอยู่ในตู้เย็น ได้แก่ อินทผาลัม ลูกฟิก กล้วยตาก มะตูมเชื่อม ลูกเกด แอปริคอต และลูกพรุน)

ส่วนที่ 2
1. เหล้ารัม 60 มล.
2. น้ำส้ม 300 มล. (ใช้น้ำส้มทิปโก้)
3. เมเปิ้ลไซรัป 3 ช้อนโต๊ะ

ส่วนที่ 3
1. แป้งแนกประสงค์ 270 กรัม
2. ผงฟู 2 1/2 ช้อนชา
3. ผงอบเชย 2 ช้อนชา
4. ผงจันทน์เทศ 1/2 ช้อนชา
5. กลิ่นวานิลลา 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
6. เนยสด 150 กรัม (รสจืด ทิ้งไว้ให้นิ่ม)
7. โยเกริต์ 100 กรัม

8. น้ำตาลทรายแดง 200 กรัม
9. ไข่ไก่ เบอร์ 1  3 ฟอง

ขั้นตอนการทำ
         ขั้นตอนที่ 1
       1.  หั่นผลไม้แห้งเป็นชิ้นเล็ก ผสมรวมกันในชามแก้ว
2.  ผสม เหล้ารัม เมเปิ้ลไซรัป น้ำส้ม คนให้เข้ากัน นำมาผสมลงในชามผลไม้แล้วผสมให้เข้ากัน ปิดฝาชามผลไม้ใส่ตู้เย็น หมักไว้ 24 ชั่วโมง นำออกมาคนบ้าง สัก 2-3 ครั้ง
ขั้นตอนที่ 2
1.  เมื่อหมักผลไม้ได้ที่แล้ว ก็มาเตรียมพิมพ์บัตเตอร์ขนาด 7 นิ้ว มาทาเนย และปูทับด้วยกระดาษไขให้รอบถาด ตอนทำใช้พิมพ์บัตเตอร์เค้ก 3 โลฟ และถาดแก้ว 1 ถาดค่ะ
2.  เริ่มมาทำเค้กได้กันเลยค่ะ เริ่มจากเปิดเตาอบที่ 160 องศาเซลเซียส อบแบบรองน้ำ (ใส่น้ำร้อนไว้ในถาดที่พื้นเตาอบ) ถ้าอบแบบไม่รองน้ำ เค้กที่ได้เนื้อจะแห้งค่ะ
3.  ร่อนแป้ง ผงฟู ผงอบเชย ผงจันทน์เทศ และวนิลาแบบผง เข้าด้วยกัน แล้วพักไว้
4.  แบ่งแป้งที่ร่อนไว้ครึ่งหนึ่งมาผสมลงในชามผลไม้และคลุกผลไม้ให้ทั่วแล้วพักไว้ (เพื่อที่ว่าผลไม้จะได้ไม่จมเวลาอบ)
5.  ตีเนยให้อ่อนตัว จากนั้นจึงใส่น้ำตาลทรายแดงลงไป ตีให้จนเป็นสีอ่อน
6.  ใส่ไข่ลงไปทีละฟอง ตีด้วยสปีดต่ำ ให้เข้ากันดีจึงใส่อีกฟองลงไป (ไม่ควรตีนานเกิน) หลังจากนั้นใส่โยเกริต์ลงตีพอเข้ากัน
7.  ทยอยใส่แป้ง ตีด้วยความเร็วต่ำ แค่พอให้แป้งเข้ากัน หลังจากนั้นใส่ผลไม้ลงไปผสมให้เข้ากัน แล้วตักใส่พิมพ์ที่เตรียมไว้
8.  อบนานประมาณ 2 ชั่วโมง หรือจนสุกค่ะ เมื่อเอาไว้จิ้มแล้วไม่มีเศษเค้กติดออกมาก็ถือว่าใช้ได้ค่ะ


9. จากนั้นนำออกจากเตาอบ พักให้พออุ่นแล้วทาด้วยน้ำหมักผลไม้ (หรือนำแยมแอปริคอตมาเวฟให้ละลาย ประมาณ 1 นาที) ทาเค้กให้เป็นเงางาม น่ารับประทาน แต่ตอนที่ทำไม่ได้ทาอะไรเลย เพราะน้ำหมักผลไม้ไม่มีเหลือเลยค่ะ


11. เมื่อเค้กเย็นดีแล้วก็ห่อด้วยพลาสติก แล้วเก็บใส่กล่องพลาสติกอีกชั้น แต่ตอนที่ทำอบใส่ถาดแก้วด้วยก็เลยนำเข้าตู้เย็นได้เลย ควรนำเข้าตู้เย็นไว้อย่างน้อย 3 สัปดาห์ แล้วจะได้รสชาติของเค้กที่หมอกรุ่นไปด้วยเหล้ารัมและเค้กก็จะชุ่มไปด้วยรสชาติของผลไม้ทีเดียวค่ะ


วันเสาร์ที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2554

Floy-thong Cake - เค้กฝอยทอง

เมื่อวันศุกร์เห็นมีขนมฝอยทองมาขายแถวที่ทำงานแล้วน่าทานมาก
 ก็เลยติดมือมาทำเค้กฝอยทองทานดูบ้าง
ตัวเนื้อเค้กเป็นชิฟฟ่อน และอบแบบรองน้ำ เหมือนการอบชีสเค้กค่ะ



ก่อนอื่นเตรียมพิมพ์ นำเนยมาทาที่พิมพ์ แล้วปูทับด้วยกระดาษไข
วันนี้ใช้พิมพ์แบบเหลี่ยม 8.5 นิ้ว x 6.5 นิ้ว หรือแบบกลมแล้วแต่ชอบค่ะ


ส่วนผสมที่ลงตัวนี้ได้มาจาก blog ของคุณน้องค่ะ 

มาดูส่วนผสมกันเลยค่ะ มี 4 ส่วนด้วยกัน

ส่วนที่ 1
นำฝอยทองน้ำหนัก 250 กรัม มากรุลงในพิมพ์แบบนี้ค่ะ (ต้นฉบับใช้ 200 กรัม)


วอร์มเตาอบที่ 180 องศาเซนเซียส ไฟบน-ไฟล่าง

ส่วนที่ 2

แป้งเค้ก 90 กรัม
ผงฟู 1+1/4 ชช.
นมผง 1+1/4 ชต.
น้ำตาลทราย (1) 50 กรัม
เกลือ 1/4 ชช.
 

ร่อนทั้งหมดให้เข้ากัน 2 รอบ แล้วพักไว้ก่อน

ส่วนที่ 3

ไข่แดง 3 ฟอง
น้ำมันพืช 45 กรัม
นมสด 60 กรัม
นำส่วนผสมคนให้เข้ากัน


ส่วนที่ 4

ไข่ขาว 3 ฟอง
ครีมออฟทาร์ทาร์ 1/4 ชช (เราใช้น้ำมะนาวแทน)
น้ำตาลทราย(2) 50 กรัม

ตีไข่ขาวจนเป็นฟองละเอียด เติมน้ำมะนาว ตีต่อจนตั้งยอดอ่อน
ทยอยใส่น้ำตาลทราย ตีต่อจนตั้งยอดแข็ง

นำส่วนผสมส่วนที่ 3 มาผสมกับส่วนที่ 2 ให้เข้ากัน


แบ่งส่วนของไข่ขาว มาผสมกับส่วนของไข่แดงโดยแบ่งผสมประมาณ 3-4 ครั้ง
เมื่อผสมเข้ากันดีแล้ว เทใส่พิมพ์ที่เตรียมไว้
 


นำเข้าอบแบบรองน้ำเหมือนอบชีสเค้ก ถ้าถาดที่ใช้เป็นถาดแบบที่น้ำเข้าได้ ให้นำฟอยล์มาห่อพิมพ์เพื่อกันน้ำเข้า แล้วนำไปวางบนถาดที่มีน้ำร้อนอยู่ประมาณ 1/3 ของพิมพ์ นำเข้าอบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส ประมาณ 30-40 นาที แล้วแต่รุ่นของเตาอบค่ะ



เมื่อขนมสุกแล้วนำออกจากเตาแล้ววางบนตะแกรง ลอกกระดาษไขออก พักไว้ให้เย็นแล้วค่อยตัดค่ะ


ขนมสุกเรียบร้อยแล้ว สีสวยจริง ๆ เลยค่ะ


พอดีเย็นวันนี้มีแขกมาเที่ยวบ้าน เค้กฝอยทองของเราเลยได้ออกงานพร้อมน้ำชาร้อน ๆ พอดีเลยค่ะ

วันพุธที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

Mamon Cake - มาม่อน เค้ก


มาม่อนเค้กเป็นของโปรดของสาวน้อยค่ะ พอขนมเริ่มสุกและมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ สาวน้อยของเราจะรีบวิ่งมาบอกเลยว่าสุกแล้ว ๆ และจะนั่งรอทันทีเลยค่ะ สำหรับคืนนี้สาวน้อยจัดการไป 1 ถ้วย กินอิ่มนอนหลับปุ๋ยเลยค่ะ ก่อนนอนสาวน้อยยังกำชับว่าช่วยแบ่งไว้ให้คุณครูของหนู 2 ถ้วยด้วยนะ และหนูจะเสริฟมาม่อนเค้กให้คุณครูเองนะค่ะ

สูตรนี้ได้มาจากคุณอุ้ย ต้องขอขอบคุณคุณอุ้ยสำหรับขนมอรอ่ย ๆ ค่ะ

ส่วนผสม

1. ไข่ไก่ฟองใหญ่ 2 ฟอง
2. เกลือป่น 1 หยิบมือ
3. น้ำมะนาว 1/2 ชช.
4. น้ำตาลทรายเม็ดละเอียด 60 กรัม
5. น้ำมันพืช 35 กรัม
6. วานิลลา 1/2 ชช.
7. แป้งเค้ก 55 กรัม
8. ผงฟู 1/4 ชช.
9. ผลไม้แห้งเช่น เชอรี่ ลูกเกด ส้ม หรือชีสสำหรับโรยหน้า
วิธีทำ

1. เตรียมถ้วยกระดาษรองพิมพ์มัฟฟินไว้ให้พร้อมค่ะ
2. อุ่นเตาอบไว้ที่ 180ซี 3. ร่อนแป้งกับผงฟูรวมกัน 2 ครั้ง
4. แยกไข่ขาวกับไข่แดงออกจากกัน
5. ตีไข่ขาวกับเกลือและน้ำมะนาวด้วยความเร็วต่ำสุดประมาณ 20 วินาที พอเริ่มฟูเปลี่ยนเป็นความ   เร็วสูงสุดแล้วค่อย ๆ ใส่น้ำตาล (30 กรัม)ลงไปทีละน้อย ตีต่อจนน้ำตาลทรายหมดและไข่ขาว  ตั้งยอดอ่อน พักไว้ก่อน
6. ตีไข่แดงต่อค่ะ โดยเทไข่แดง น้ำมันพืช วานิลา และน้ำตาลส่วนที่เหลือใส่ชามอ่างอีกใบตีด้วยความเร็วสูงจนไข่มีลักษณะข้นฟู แล้วจึงนำไข่ขาวมาตะล่อมให้เข้ากับไข่แดง  สุดท้ายก็ร่อนแป้งใส่อ่างไข่ แบ่งใส่สัก 2 ครั้ง ตะล่อมเบามือให้พอเข้ากัน ไม่มีแป้งเหลือเป็นเม็ด ๆ ขั้นตอนนี้พยายามอย่าคนแรงและนานนะคะ
7. เสร็จแล้วก็เทใส่พิมพ์ได้ 9 ถ้วย และโรยหน้าด้วยผลไม้แห้งต่างๆ (ถ้าชอบ)   แล้วนำเข้าอบประมาณ 13-15 นาทีค่ะ วางถาดตรงชั้นกลางของเตาอบ หากใครชอบชีสก็ไม่ต้องโรยไม้พออบเสร็จเอาออกจากเตาแล้วก็โรยหน้าด้วยชีสทันที 

ที่เราทำ เราใส่ลูกเกดสีเหลือลงไปเลย เพราะว่าถ้าโรยหน้าแล้วอบออกมาผลไม้ไหม้ทุกทีเลยค่ะ   

ขนมอร่อย ๆ มาแล้ว


                                                       ขอบคุณที่แวะมาเยื่อน ^-^

วันอังคารที่ 12 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

Bael Cake – เค้กมะตูม


เค้กมะตูม เป็นเค้กแบบที่สอง ที่ลองทำค่ะ ทำออกมาแล้ว ขนมฟู นุ่ม ถูกใจมากเลยค่ะ ทั้งรสชาติและกลิ่นที่หอมอ่อน ๆ ของมะตูม รอบนี้เป็นรอบที่สามแล้วค่ะ (กระซิบค่ะ มะตูมเชื่อมหาอยาก เลยได้ทำปีละครั้งค่ะ) สูตรนี้ได้มาจากคุณเกด Bloggang ค่ะ สูตรเดิมของคุณเกดเป็นแบบ 4 ปอนด์ แต่สูตรที่เราทำปรับเหลือ 2 ปอนด์ และใช้ถาดอบแบบโลฟ ทำได้ 3 โลฟ พอดีเลยค่ะ

ส่วนผสม
1.  แป้งเค้ก  1  ถ้วยตวง 
2.  ผงฟู  1  ช้อนชา
3.  โซดาไปคาร์บอเนต  1/2  ช้อนชา
4.  ไข่ไก่  3  ฟอง  (ใช้ไข่เบอร์ 0 - แยกไข่แดง - ไข่ขาว)
5. น้ำตาล แบ่งเป็น 2 ส่วน
          5.1 ส่วนที่ 1 สำหรับตีกับเนย
น้ำตาลทรายขาว #1 - 50 กรัม
น้ำตาลทรายแดง #1 – 55 กรัม
          5.2 ส่วนที่ 2 สำหรับตีกับไข่ขาว
น้ำตาลทรายขาว #2 - 50 กรัม) 
น้ำตาลทรายแดง #2 – 55 กรัม
7.  มะตูมหั่นเป็นสี่เหลี่ยม 1 1/2 ถ้วยตวง
8.  เกลือ  1/2  ช้อนชา
9.  นมเปรี้ยว  1/2  ถ้วยตวง (เราใช้ยาคูลย์ 1 ขวด)
10. เนยจึด 1/2 ก้อน (113 กรัม)
11. วานิลลา  1/2  ช้อนชา
12. ครีม ออฟ ทาร์ทาร์  1/4  ช้อนชา – เราใช้มะนาวแทน
13. น้ำผึ้ง  1/2  ช้อนโต๊ะ

ขั้นตอนการทำ
1. หั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า แบ่งแป้งมาสัก 20 กรัม นำมาคลุกมะตูมให้ทั่ว ๆ เพื่อเวลาที่เราอบแล้วมะตูมจะได้ไม่นอนก้นเค้ก เปิดเตาอบที่อุณหภูมิ  170 องศาเซลเซียส  เตรียมพิมพ์ ทาเนยแล้วปูกระดาษรองอบ
2.  แยกไข่แดงและไข่ขาว อย่าให้ไข่แดงแตกปนไข่ขาวนะคะเดี๋ยวจะตีไข่ขาวไม่ขึ้นค่ะ
3.  ชั่งน้ำตาลทรายแดงและน้ำตาลทรายขาวรวมกัน แบ่งเป็น 2 ส่วนสำหรับส่วนที่ตีกับเนย 1 ส่วน และส่วนที่ 2 ไว้ตีกับไข่
4.  ผสม นมเปรี้ยว น้ำผึ้ง และวานิลลาเข้าด้วยกันแล้วพักไว้
5ร่อนแป้ง ผงฟู โซดาไบคาร์บอเนต เข้าด้วยกันแล้วพักไว้  จากนั้นตีเนยให้อ่อนตัวนะคะตีด้วยหัวตีใบไม้ ตีด้วยความเร็วต่ำก่อนค่ะ
6. เริ่มจากตีไข่ขาวกับครีมออฟทาร์ทาร์ (หรือมะนาว) และน้ำตาล ตีด้วยหัวตีตะกร้อให้ตั้งยอดค่ะ  ภาชนะที่ตีและหัวตีควรไม่มีไขมัน
7เมื่อเนยอ่อนตัวจึงใส่น้ำตาลทรายแดงน้ำตาลทรายขาว ตีด้วยความเร็วปานกลาง  ตีให้เนยขึ้นฟูเบาใช้เวลาประมาณ 6 นาที พักปาดอ่างเพื่อให้เนยตีขึ้นฟูได้เท่า ๆ กันด้วยนะคะ สัก 1-2 ครั้งค่ะ
8. ใส่ไข่แดงลงไปตีให้เข้ากัน  ที่ละฟอง ตีด้วยความเร็วต่ำ
9จากนั้นจึงใส่แป้งสลับกับนมเปรี้ยวค่ะ  โดยเรียงตามลำดับจาก แป้ง --> นม --> แป้ง --> นม --> แป้ง ตีด้วยความเร็วต่ำค่ะ ตีแค่พอให้เข้ากัน
10. ใส่มะตูมลงไปในชามแป้ง
11. นำไข่ขาวไปตะล่อมให้เข้ากันกับส่วนที่เราตีก่อนหน้าให้เข้ากันนะคะ ผสมให้เข้ากัน เนื้อเค้กจะดุฟูเบาค่ะ
13. นำเข้าอบที่ 170 องศาเซลเซียส นานประมาณ 30-40 นาที สำหรับพิมพ์โลฟ สังเกตุการสุกด้วยการใช้ไม้ปลายแหลมจิ้มดู ถ้าไม่มีเศษเค้กติดขึ้นมาก็แสดงว่าสุกค่ะ

ขนมสุกเรียบร้อยแล้วค่ะ



สำหรับชุดนี้นำไปส่งร้านเจ้าประจำค่ะ


 ขอบคุณ คุณเกด สำหรับสูตรอร่อย ที่นี่ค่ะ http://artisansweetsbykate.blogspot.com/2009/08/bael-fruit-cake.html
                                             ขอบคุณที่แวะมาเยื่อน ค่ะ ^-^

วันอังคารที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2554

Cocoa-Oreo Brownies


วันเสาร์ที่ 23 เมษายน 2554 ทางผู้ปกครองที่โรงเรียนอนุบาลบ้านรัก ได้จัดงาน 
Kindergaten / Baan Rak Charity Event of KOINOBORI สำหรับช่วยผู้ประสบภัยสึนามิ
ในประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2554 ก็เลยทำขนมบราวนี่สูตรประจำครอบครัว
มาออกร้านด้วย ส่วนกล้วยน้ำว้าที่บ้านสุกพอดีก็เลยได้ออกงานเช่นกันค่ะ




ในงานมีกิจกรรมมากมาย เช่น Hand Print to handmade KOINOBORI, Garage Sale, Work Shop of Pastel Picture, Hand Bell Concert and Piano Ocarina Concert

สำหรับครอบครัวเราก็ไปเพลินอยู่กับกิจกรรม Work Shop of Pastel Picture และก็ได้ผลงานกลับมาบ้านประมาณนี้ค่ะ



ซึ่งสุดท้ายประทับใจในความไพเราะของ Piano Ocarina Concert มาก ๆ เลยค่ะ


วันจันทร์ที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554